ไหว้พญานาค 5 จังหวัดภาคอีสาน เส้นทางแห่งความเชื่อความศรัทธา แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

ไหว้พญานาค

ตำนานความเชื่อ ความศรัทธา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับพญานาคที่มีความคล้ายคลึงกัน ใน 5 จังหวัดภาคอีสาน คือ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี

วันนี้ khamchanod.com จึงขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว “11 พิกัด ไหว้พญานาค ตามรอยความเชื่อความศรัทธาพญานาค แห่งลุ่มแม่น้ำโขง” โดยเส้นทางท่องเที่ยวนี้ จะเริ่มต้นตั้งแต่ทางทิศเหนือของแม่น้ำโขง ที่จังหวัดหนองคาย เรื่อยลงมาที่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร

คำชะโนด

คำชะโนด หรือ วัดศิริสุทโธ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

เส้นทางท่องเที่ยว ไหว้พญานาค 5 จังหวัดอีสาน

สารบัญ

จังหวัดหนองคาย

จังหวัดอุดรธานี

จังหวัดบึงกาฬ

จังหวัดนครพนม

จังหวัดมุกดาหาร

วัดโพธิ์ชัย หลวงพ่อพระใส จังหวัดหนองคาย

วัดโพธิ์ชัย

วัดโพธิ์ชัย หลวงพ่อพระใส จังหวัดหนองคาย

วัดโพธิ์ชัย เป็นพระอารามหลวง ที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย วัดโพธิ์ชัยตั้งอยู่บนถนนโพธิ์ชัย แต่เดิมชื่อ วัดผีผิว เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจ ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธิ์ชัย และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง ปัจจุบันวัดโพธิ์ชัยเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย

หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย

หลวงพ่อพระใส

หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย

“หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพุทธลักษณะงดงาม เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย

ตำนานเล่าว่า พระธิดา 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และถวายนามพระพุทธรูปตามพระนามของแต่ละพระองค์ คือ

  • พระเสริม เป็นพระประจำพระธิดาองค์ใหญ่
  • พระสุก ประจำพระธิดาองค์กลาง
  • พระใส ประจำพระธิดาองค์เล็ก

แต่เดิมพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ลงเรือข้ามฝั่งแม่น้ำโขงมายังเมืองหนองคาย แต่เกิดพายุพัดแรงจน “พระสุก” ตกน้ำจมหายไป ส่วน “พระเสริม” และ “พระใส” ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย จนถึงในสมัยรัชกาลที่ 4 จึงได้อัญเชิญ “พระเสริม” ไปประดิษฐานที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร

ในช่วงวันสงกรานต์ของทุกปี ชาวเมืองหนองคายจะมีงานประเพณีบุญสงกรานต์ และอัญเชิญหลวงพ่อพระใสมาให้ประชาชนทั้งไทยและลาว ได้สรงน้ำบูชาพระใส ณ วัดโพธิ์ชัย

ขอบคุณรูปภาพจาก วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จังหวัดหนองคาย


ที่อยู่ : วัดโพธิ์ชัย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

พิกัด : https://goo.gl/maps/KySS1jeKZodqdpam6

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 07:00น.–18:00น.

พระธาตุหล้าหนอง (พระธาตุกลางน้ำ) จังหวัดหนองคาย

พระธาตุหล้าหนอง (จำลอง) จังหวัดหนองคาย

พระธาตุหล้าหนอง หรือ พระธาตุกลางน้ำ ตั้งอยู่ตำบลหาดคำ เมื่อ พ.ศ. 2390 องค์พระธาตุ ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงสู่แม่น้ำโขงห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร ภายในองค์พระธาตุประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาท จำนวน 9 พระองค์

ตามตำนานอุรังคธาตุ (พระธาตุพนม) จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่า องค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูง 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20- 22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน ปัจจุบันได้มีการสร้างพระธาตุหล้าหนองจำลองขึ้นในบริเวณใกล้กัน เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงความสัมพันธ์ของประชาชนสองฝั่งโขงที่สืบทอดมายาวนาน

พระธาตุกลางน้ำ

พระธาตุกลางน้ำ

พระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนอง เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง

ปัจจุบันองค์พระธาตุจมอยู่กลางแม่น้ำโขงห่างจากฝั่งไทย 180 เมตร องค์พระธาตุก่อด้วยอิฐถือปูน ล้มตะแคงไปตามกระแสน้ำ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีฐานเหลี่ยมมุมฉาก โดยด้านหนึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงครึ่งฐาน องค์พระธาตุมีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมเท่าที่ยังเหลืออยู่เป็นชั้นฐานเขียง 2 ชั้น ฐานสี่เหลี่ยมย่อเก็จต่อขึ้นมาอีก 4 ชั้น จึงเป็นเรือนธาตุ ต่อด้วยบัวลูกแก้วอีก 2 ชั้น ความสูงของเจดีย์เฉพาะส่วนที่สัมผัสได้ 12.20 เมตร ความกว้างของฐานองค์พระธาตุชั้นล่างสุด 15.80 เมตร


ที่อยู่ : พระธาตุหล้าหนอง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

พิกัด : https://goo.gl/maps/NkHM6RGynTFwzCmw8

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 06:00 น. – 18:00 น.

ไหว้พญานาค ณ พระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย

พระธาตุบังพวน

พระธาตุบังพวน จังหวัดหนองคาย

พระธาตุบังพวน ตั้งอยู่บ้านดอนหมู ตำบลพระธาตุบังพวน เป็นวัดเก่าแก่ที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งองค์พระธาตุเดิมสร้างด้วยอิฐเผาและได้พังทลายลงเมื่อ พ.ศ. 2513 ด้วยภัยธรรมชาติ และได้ดำเนินการซ่อมแซมโดยกรมศิลปากร ต่อมาสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก (วาส มหาเถระ) ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระธาตุพนม มาประดิษฐานไว้เพิ่มเติมในพระเจดีย์องค์ใหม่ด้วย

วัดพระธาตุบางพวน จ.หนองคาย เป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ชาวจังหวัดหนองคายมาช้านาน ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระธาตุบางพวน เจดีย์หลักของวัด การก่อสร้างไม่ชัดเจน แต่มีตำนานมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กล่าวถึงพระธาตุบางพวนนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าเจดีย์นี้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ทางวัดยังจัดงานฉลองพระสถูปในวันที่ 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี

สระมุจลินท์ (บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์)

ไหว้พญานาค พระธาตุบังพวน

สระมุจลินท์ (บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์) ที่มีรูปปั้นพญานาค 7 เศียรอยู่ตรงกลางสระ

ภายในวัดยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งคือ สัตตมหาสถาน ซึ่งเป็นสถานที่เดียวในโลกที่มีซากโบราณสถานทั้ง 7 แห่ง และมี สระมุจลินท์ (บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์) ที่มี รูปปั้นพญานาค 7 เศียร อยู่ตรงกลางสระ

ตามตำนานเล่าว่า มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นหลังจากบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ น้ำที่แผ่ออกมาจากพื้นดิน ชาวบ้านเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นภูเขาพญานาคที่ปกป้องพระธาตุบางพวน จึงสร้างสระนี้ให้เป็นสระศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด นำน้ำจากสระไปใช้ในงานมงคลต่างๆ

>> “ตำนานเรื่องเล่า พญามุจลินทร์นาคราช” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : พระธาตุบังพวน ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

พิกัด : https://goo.gl/maps/ox1AnkzCbzikdb1q6

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

ไหว้พญานาค ณ คำชะโนด วัดศิริสุทโธ

คำชะโนด

คำชะโนด หรือ วัดศิริสุทโธ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

คำชะโนด หรือ วัดศิริสุทโธ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะที่มีชื่อว่า เกาะชะโนด ในทุ่งนาของตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีค่ะ

โดยสถานที่นี้มีความเชื่อตามตำนานพื้นบ้าน ว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นประตูสู่เมืองบาดาล เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพญานาค ปกครองรักษาโดยพญานาคราชปู่ศรีสุทโธ พญานาคผู้ยิ่งใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำโขง และองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี หรือชื่อที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “จ้าวปู่ศรีสุทโธ” และ “จ้าวย่าศรีปทุมมา”

ภายในเกาะคำชะโนดมีศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณใจกลางของป่าคำชะโนด ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลและเมืองมนุษย์ จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างให้ความเคารพ ความเลื่อมใสศรัทธา และเดินทางมาสักการะกันไม่ขาดสาย

ความมหัศจรรย์ ของน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ผู้มีความเชื่อความศรัทธาต้องการอยากให้เกิดพลังด้านใดก็ให้อธิษฐานนำไปใช้ตามนั้น มีหลายกลุ่มที่รวมตัวกันมาทำพิธีขอน้ำไปใช้เป็นยารักษาโรคและอื่นๆ บางคนก็อธิฐานไปเพื่อกิจการค้าขายและการเดินทาง ผลที่เขาได้รับก็เป็นตามความต้องการ 

โดยผู้คนส่วนใหญ่มักเดินทางไปขอพรเรื่องความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ และขอโชคลาภ แอดมินเชื่อว่าเพื่อนๆควรมาสักครั้งเพื่อกราบไหว้บูชาและขอให้บุญบารมีท่านช่วยอำนวยพร

>> “เตรียมตัว ก่อนไปคำชะโนด และเคล็ดไม่ลับ” คลิกที่นี่ <<

ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีปทุมมา

ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีปทุมมา

ประวัติตำนานคำชะโนด เล่าขานกันมานานแล้วว่า แต่ก่อนหนองกระแส หรือหนองแส ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปในเขตลาว เป็นเมืองที่พญานาคครองอยู่โดยแบ่งออกเป็น ส่วน

ส่วน เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธนาค เป็นหัวหน้าครองอยู่ อีกส่วนหนึ่ง หัวหน้าผู้ครองอยู่ก็เป็นพญานาค เหมือนกัน มีชื่อว่า เจ้าพ่อพญาสุวรรณนาค มีบริวารอย่างละ 5000 เท่าๆกัน

พญานาคทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ปกครองบริวารของแต่ละฝ่ายอยู่ด้วยกันอย่างมีความผาสุก มีความรักสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีอาหารแบ่งกันกิน มีความช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน และเป็นเพื่อนกันมาตลอด และมีข้อตกลงกันอยู่ข้อหนึ่งว่า

ถ้าฝ่ายใดออกไปล่าหาเนื้อ หาอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องไม่ออกไป เพราะเกรงว่าหากต่างฝ่ายต่างออกไปล่าอาหารทั้ง 2 ฝ่าย อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งแย่งอาหารกัน อาจจะเกิดการทะเลาะวิวารรบรากันได้

>> ประวัติ ตำนานคำชะโนด ที่กล่าวขานกันมาช้านาน คลิกที่นี่ <<

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด

คำชะโนด

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด คือบ่อน้ำผุดธรรมชาติซึมซับอยู่ตลอดเวลาไม่เหือดแห้งเสมอต้นเสมอปลาย อันเนื่องมาจากพลังอำนาจบุญบารมีขององค์ปู่พญาศรีสุทโธและความอุดมสมบูรณ์ จากคำบอกเล่า ของพ่ออุทัย ไพเราะ และผู้รู้ท่านอื่นๆ รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงคำชะโนด

ได้มีการเชื่อมต่อจาก ทางสายญาณบารมีจากนิมิตเป็นที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งอยู่ที่เมืองชำโนดเป็นประตูขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาล และเมืองมนุษย์โลก ที่พระอินทร์ทรงประทานพรใช้องค์ปู่พญาศรีสุทโธ หลังจากที่ได้รับชัยชนะในการสร้างแม่น้ำแข่งขันกับองค์ปู่สุวรรณนาค และได้ทรงมอบเมืองพรหมประกายโลก ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของพรหม

ที่กลายร่างเป็นเทพบังบดให้องค์ปู่พญาศรีสุทโธครอบครอง พร้อมกับประทานพรให้

1) เป็นทางขึ้น-ลง เมืองบาดาลและมนุษย์โลก

2) ต้นชะโนด ไม้คู่บารมี ให้เกิดรวมอยู่ที่เกาะแห่งนี้

3) บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากเมืองสวรรค์

>> “บันทึกเรื่อง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คำชะโนด” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : วัดศิริสุทโธ ตำบล บ้านม่วง อำเภอ บ้านดุง อุดรธานี 41190

พิกัด : https://goo.gl/maps/MCKQDr3eg5BXxHCW8

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 06.00-18.00 น.

เว็บไซต์ : https://khamchanod.com

ถ้ำนาคา เจ้าปู่อือลือนาคราช จังหวัดบึงกาฬ

ถ้ำนาคา

ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ

ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ รอยต่อระหว่างจังหวัดบึงกาฬ – นครพนม

จุดเด่นของถ้ำนาคา คือ หิน ที่มีรูปร่างคล้ายพญานาคหรืองูยักษ์ มีลักษณะเหมือนเกล็ดงูขนาดใหญ่ ซึ่งในทางธรณีวิทยา เกิดจากหินบนพื้นผิวโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร้อน – เย็นสลับกัน กระบวนการทางกายภาพเกิดการผุพัง ปริแตกตามพื้นผิวโดยรอบหิน เรียกว่า ซันแครก (sun crack)

พลังศรัทธา เจ้าปู่อือลือนาคราช

ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ

เจ้าปู่อือลือราชา เป็นราชาผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาคเฝ้าถ้ำแห่งนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เพราะเป็นต้นเหตุของรักไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง พระอือลือราชาจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่คือบึงกาฬ

การเดินทางขึ้นไปยังถ้ำนาคา สามารถขึ้นได้ทางเดียว คือบริเวณสำนักสงฆ์ฐิติสาราราม (วัดตาดวิมานทิพย์) เส้นทางน้ำตกตาดวิมานทิพย์ จุดนี้ระหว่างทางจะพบประตูเต่า หินหัวเรือ หัวนาคาหัวที่ 3 และเมื่อขึ้นถึงบนเขาจะมีทางไปพบหัวนาคาหัวที่ 1 ซึ่งจะเป็นทางเดินป่าขึ้นเขา 2 กิโลเมตร เป็นทางดินสลับกับบันได และมีบางช่วงจะต้องดึงเชือก


ที่อยู่ : ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jP6thUovxHNAJit7A

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 07:00 น. – 14:00 น.

วัดมหาธาตุ (พระธาตุนคร) จังหวัดนครพนม

วัดมหาธาตุ (พระธาตุนคร) จังหวัดนครพนม

วัดมหาธาตุ หรือ พระธาตุนคร สร้างในปี พ.ศ. ๑๑๕๐ เป็นวัดใหญ่ประจำเมืองที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม เดิมชื่อ “วัดมิ่งเมือง” ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดธาตุนคร เพราะว่าที่วัดนี้มีพระอรหันตธาตุ ผอบไม้จันทร์แดง พระพุทธรูปทองคำ บรรจุอยู่ในธาตุเจดีย์องค์หนึ่ง กอรปกับผู้ปกครองบ้านเมืองในสมัยนั้น นิยมสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิของบรรพบุรุษไว้ให้สมกับเกียรติยศ ในวัดจึงเต็มไปด้วยธาตุเจดีย์

พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์

พระธาตุนคร

พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๒ จึงได้มีการรื้อถอนพระธาตุเล็กพระธาตุน้อยออกแล้วสร้าง “พระธาตุนคร” ขึ้นมาใหม่แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง ๒๔ เมตรถือ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญอันเป็น พระธาตุคู่บุญประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่มาสักการะพระธาตุแห่งนี้ จะได้รับอานิสงส์เสริมสร้างบารมีและมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน

พระธาตุนคร มีลวดลายอันวิจิตรบรรจงตระการตา ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปทรงตามแบบพระธาตุพนม องค์เดิมรูปทรงตั้งบน ฐานใหญ่2ฐาน ต่อลดหลั่นกันตามลำดับ  แต่ละฐานมีรูปประตูอยู่ตรงกลางบนประตูเป็นรูปคล้ายบัวบาน  มีรูปและลายต่าง ๆ ข้างประตู ทำเป็นลายเครือไม้ดอกไม้ผลรูปพระราชาทรงช้างทรงม้าต่อจากฐานใหญ่ทั้งสองขึ้นไปแล้วก็มีลักษณะแหลมเรียวขึ้น ไปตามลำดับ  ตอนกลางในด้านทั้งสี่วิจิตรไปด้วยหมู่ดาวกระจาย (ดอกกระจับ) สูงถัดขึ้นไปทำเป็นรูปตู้หนังสือ พระไตรปิฎกโบราณ ต่อขึ้นไปอีกแล้ว ทำเป็นรูปลักษณ์คล้ายกลีบบัวอีก  ที่ยอดสุดก็คล้ายดอกบัวตูมต่อจากนี้จึงเป็นฉัตรทองแดงเหลืองเจ็ดชั้น  ยอดฉัตรนี้มี ลูกแก้วเจียระไน  1ดวงอยู่สูงสุดยอด  ฐานมีกำแพงล้อมรอบ ทั้ง 4 ด้าน   มีซุ้มประตูอยู่ตรงการทุกด้านเหนือซุ้มประตูมีรูปปั้นเทพนั่ง ขัดสมาธิประนม มือ(เทพพนม)ซึ่งเป็นเทพมเหศักดิ์พิทักษ์ พิทักษ์รักษาองค์พระธาตุ ที่มุมกำแพงมีเสาสูงขึ้นแล้วทำเป็นดอกบัวตูม บนยอดเสานอกกำแพง มีธาตุดูกล้อมอีกชั้นหนึ่งบนธาตุนั้นเป็นที่สำหรับ วางดอกไม้ธูปเทียนในคราวมีงานพิธีต่าง ๆ

หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดนครพนม จึงไม่ควรพลาดที่จะไปกราบสักการะพระธาตุนครครั้งหนึ่ง เพื่อเป็น สิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และคนใกล้ชิด อธิษฐานจิตให้ดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท เร่งทำความดีเพื่อสะสมเป็นพลังบุญไว้แก่ตนเองในภายภาคหน้า


ที่อยู่ : พระธาตุนคร ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vJ9idPrDPJyk5rV3A

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

ลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม

ลานพญาศรีสัตตนาคราช จังหวัดนครพนม

ลานพญาศรีสัตตนาคราช ตั้งอยู่ในบริเวณเขื่อนหน้าเมืองริมแม่น้ำโขง ตรงจุดตัดระหว่างถนนสุนทรวิจิตรกับถนนนิตโย องค์พญาศรีสัตตนาคราชเป็นรูปปั้นพญานาคเจ็ดเศียร พ่นน้ำ ขดลำตัวและหาง หล่อด้วยโลหะทองเหลือง หันหน้าออกสู่แม่น้ำโขงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในทุกปีวันที่ 7 เดือน 7 (ช่วงวันที่ 7-13 กรกฎาคม) จะมีการจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ทุกวันในช่วงหัวค่ำจะมีการเปิดไฟประดับรอบองค์พญาศรีสัตตนาคราช

ประติมากรรมพญาศรีสัตตนาคราช สร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์ มีขนาดกว้าง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ประดิษฐานอยู่บนแท่นรวมความสูง 16.29 เมตร ถือว่าเป็นพญานาคองค์เดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ แสดงถึงองค์พญานาคที่มีความผูกพัน เชื่อมโยง พิทักษ์ ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมตามตำนานที่กล่าวขานสืบมานานชั่วอสงไขย

พญาศรีสัตตนาคราช รูปลักษณะเป็นองค์พญานาค 7 เศียร ประทับพักอิริยาบทสงบนิ่งขดลำตัว 3 ชั้น บ่งบอกถึงความสงบสุขของจังหวัดนครพนมที่พญานาคเลือกเป็นที่ประทับ รูปทรง 7 เศียร เมื่อรวมกันแล้ว รูปทรงจะคล้ายดอกบัวซึ่งในตำนานพญานาคจะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา หน้าหรือลำตัวพญานาคจะอวบอ้วน เยือกเย็นเสมือนผู้ใหญ่ใจดีที่สลัดสิ้นซึ่งกิเลส ตัณหา ราคะ เปี่ยมด้วยคุณธรรม

งานบวงสรวง พญาศรีสัตตนาคราช

ไหว้พญานาค พญาศรีสัตตนาคราช

งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช

ผู้มาขอพรจากท่านจะได้รับความสมประสงค์ สมปรารถนาทุกคน สังวาลย์ที่ประดับศอสื่อถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดนครพนม ซึ่งมีองค์พระธาตุพนมอันเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั่วโลก และอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่เจริญรุ่งเรืองในอดีตการ หันหน้าไปทางทิศเหนือเฉียงตะวันออก ที่ 6 องศา 20 ฟิลิปดา ทิศเหนือบ่งบอกถึงการหันหน้ามองเมืองนครพนม ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อันจะนำสู่ความเจริญรุ่งเรือง มีเกียรติยศ ชื่อเสียง ประกาศศักดิ์ศรีบารมีให้แก่เมืองนครพนมให้ลือเลื่องชื่อขจรขจาย การว่ายไหลทวนกระแสน้ำโขงขึ้นไปทางเหนือเปรียบประดุจการแสดงถึงพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ แข็งแรง การหันเฉียงตะวันออกนำไปสู่การออกได้ทุกช่องทาง มิติดขัดสน ทำมาค้าขายคล่องออกตัวได้ดีปราศจากปัญหา อุปสรรค ทั้งปวง ซึ่งหากหันไปทางทิศใต้ก็จะเป็นการไหลไปตามน้ำโขง ซึ่งอธิบายเปรียบได้เสมือนปลาที่กำลังจะหมดแรง หมดพละกำลัง หรือสัตว์ที่กำลังจะตายเท่านั้นที่จะไหลไปตามน้ำ หากหันไปทิศตะวันตกก็ดุจดั่งพระอาทิตย์อัศดง ตกต่ำขาลง ที่กำลังจะลับเหลี่ยมเขา นำไปสู่ความมืดมิด บอดสนิทในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันผู้คนมิพึงปรารถนาได้พบพาน

ในทุกปีจังหวัดได้จัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ในวันที่ 7 เดือน 7 บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช โดยการระดมสรรพกำลังบูรณาการการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนทั่วไปในจังหวัด

>> “ตำนานเรื่องเล่า พญาศรีสัตตนาคราช” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : ลานพญาศรีสัตตนาคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pQSgv1JkSqZWi7dM7

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 24 ชั่วโมง

พระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม

พระธาตุพนม

พระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม

พระธาตุพนม ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าตั้งตระหง่าน อยู่ริมฝั่งโขง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยโหญ่ ตามตํานานอุรังคธาตุกล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นําพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง ๕ เป็นประธาน ในการสร้างที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนมในปัจจุบัน

องค์พระธาตุพนมได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้ง จนเมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๑๘ เวลา ๑๙.๓๙ น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งอิงค์เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ และภัยพิบัติจากการเกิดฝนตกพายุพัดแรง ติดต่อกันหลายวัน ประชาชนได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่สร้างครอบฐานพระธาตุองค์เต็ม โดยรักษารูปแบบเต็ม ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น

พระธาตุปีเกิดของคนเกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอาทิตย์

พระธาตุพนมถือเป็นพระธาตุปีเกิดของคนเกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอาทิตย์

พุทธศาสนิกชนที่ได้มาเยี่ยมเยียนจากทั่วสารทิศทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ได้สืบต่อความเชื่อกันมาจากบรรพบุรุษ ว่ากันว่าหากใครได้มา นมัสการพระธาตุครบ ๗ ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนมสักครั้ง ถือเป็นอานิสงส์ผลบุญยิ่งนัก

พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีเกิด(ปีวอก)แห่งเดียวบนแผ่นดินที่ราบสูง และยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ เนื่องด้วยตามตำนานบริเวณที่ตั้งของพระธาตุพนมในอดีตเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้ขึ้นมาหมุน แล้วมองลงไปรอบๆ ก่อนจะประกาศก้องว่าพื้นที่ทั่วบริเวณนี้จะเป็นที่สืบทอดและเป็นจุดเริ่มต้นพระพุทธศาสนา เสมือนกับวันอาทิตย์เป็นวันเริ่มต้นของวันอื่นในสัปดาห์ ทั้งตั้งหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศประจำของ “พระราหุล” และยังเป็นองค์เจดีย์ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินอีสาน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะ ของเทวดาประจำวันอาทิตย์


ที่อยู่ : พระธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FK6TgYVV27HTbG8s7 

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 05:00 น. – 20:00 น.

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช จังหวัดมุกดาหาร

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช จังหวัดมุกดาหาร

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช  –  พญานาคดิน (ปฐพีพิภพ) กับคติความเชื่อ “อุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย”

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช ลำตัวสีขาวหมอก สง่างาม โดดเด่น ดูอบอุ่น มีอุปนิสัย ตรงไปตรงมา ดูภายนอกมองว่าดุร้าย แท้จริงแล้วใจดี ชื่อองค์พญานาคซึ่งหมาย พญานาคผู้นำความเป็นสิริมงคลและความรุ่งโรจน์มาสู่จังหวัดมุกดาหาร

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช เป็นประติมากรรมพญานาค ที่มีเกล็ดหินอ่อนสีขาวหมอกมัว เป็นองค์พญานาคที่ประดับหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ โดยมีความสูง 11 เมตร ยาว 51 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางตลอดลำตัว 1.50 เมตร โดดเด่นสวยงามบริเวณสวนสาธารณะแก่งกะเบา

สามารถเข้าไปกราบไหว้สักการะขอพรและได้ลอดท้องพญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคล มีความสุข สมหวัง ร่ำรวย และแข็งแรง ดังคำอธิษฐาน

พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช ตั้งอยู่ภายในแก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร

>> “ตำนานเรื่องเล่า พญาภุชงค์นาคราช” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะแก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LpEpwVau89v67wUM7

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 24 ชั่วโมง

พญาอนันตนาคราช จังหวัดมุกดาหาร

พญาอนันตนาคราช

พญาอนันตนาคราช จังหวัดมุกดาหาร

พญาอนันตนาคราช – พญานาคน้ำ (บาดาลพิภพ) กับคติความเชื่อ “ร่มเย็น ร่มรื่น ราบรื่น”

พญานาคองค์ใหญ่ที่พันรอบเสาต้นใหญ่หันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ติดกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) โดยมีความเชื่อกันว่าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งนี้คือปากถ้ำสู่เมืองบาดาล และตามตำนานพญานาคอนันตนาคราชถือเป็นราชาแห่งพญานาคทั้งปวงและเป็นเจ้าแห่งท้องสมุทร

ประติมากรรมพญานาคอนันตนาคราช มีลักษณะเป็นองค์พญานาคเลื้อยพันรอบเสาสีทองที่มีความสูงเหนือสะพานมิตรภาพ ช่วงลำตัวองค์พญานาคมีเกล็ดสีดำตัดกับแผงสีทอง หันพระเศียรไปทางแม่น้ำโขง โดยองค์พญานาคอนันตนาคนี้เปรียบเสมือนพญานาคน้ำซึ่งเป็นหนึ่งในสามองค์พญานาคแห่งมุกดาหาร

พญาอนันตนาคราช จังหวัดมุกดาหาร

>> “ตำนานเรื่องเล่า พญาอนันตนาคราช” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : ศาลพ่อปู่พญานาค อนันตนาคราช (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/cByDAnuayfLfzZWn8

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 24 ชั่วโมง

วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช จังหวัดมุกดาหาร

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช –  พญานาคฟ้า (สวรรค์พิภพ)   กับคติความเชื่อ “เจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง”

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ประติมากรรมพญานาคขนาดใหญ่สร้างอยู่บนเขาภูมโนรมย์ ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์  ลำตัวยาว 122 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร  ที่มีการออกแบบองค์ประกอบและสีสันเขียวอมฟ้างดงาม

การสร้าง “พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” เป็นดำริของพระมหามงคล มังคลคุโณ รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เพื่อให้พญานาคปกปักรักษาองค์พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ และสร้างเนื่องในวาระเฉลิมฉลองการก่อตั้งวัดครบ 100 ปี และครบรอบ 36 ปีจังหวัดมุกดาหาร

ผู้ที่มากราบไหว้พญานาคสามารถตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่อง ที่มีความเชื่ออันเป็นมงคลต่าง ๆ และยังสามารถนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบๆ พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และเสริมความเจริญรุ่งเรื่อง วาสนาอีกด้วย

วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์

วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร

>> “ตำนานเรื่องเล่า พญาอนันตนาคราช” คลิกที่นี่ <<


ที่อยู่ : วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Un6eLg5FXCzN8pvQ6

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 08:00 – 18:00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *