ตำนานเรื่องเล่า บ่วงนาคบาศ
ตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ บ่วงนาคบาศ บ่วงบาศนาคราช ถูกจัดเป็นหนึ่งใน สุดยอดเครื่องราง แห่งการบันดาลพรเรื่อง โชคลาภ และป้องกันภัย คือ มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก
จึงเรียกว่า “กินไม่หมด” ซึ่งวันนี้แอดมินได้นำข้อมูล ตำนานเรื่องเล่า บ่วงนาคบาศ
และแนะนำ วิธีการบูชาและคาถาสวด ให้ถูกหลักการได้ง่ายๆ ที่บ้านคุณเอง

เรื่องนี้ปรากฏใน รามเกียรติ์ ตอนศึกอินทรชิต เรื่องมีอยู่ว่าพระพรหมได้ประทานอาวุธชนิดหนึ่งให้แก่ อินทรชิต เรียกว่า นาคบาศ คือเป็นศรที่มีอนุภาพอย่างมาก ยิงไปที่ศัตรูจะกลายเป็น บ่วงนาค รัดศัตรูไว้
ว่ากันว่า ด้วยศรชนิดนี้ ทำให้อินทรชิตลุยไปทั้งสามโลกได้ และรบชนะพระอินทร์ ด้วยเหตุนี้ จึงได้เรียกว่า อินทรชิต แปลว่า ผู้พิชิตพระอินทร์

อินทรชิต
เมื่อ อินทรชิต จะรบกับฝ่าย พระรามพระลักษณ์ และอยากเพิ่มอนุภาพแห่งศรให้ยิ่งขึ้นจึงทำพิธีชุบ ศรนาคบาศ ในโพรงไม้โรทัน โดยการรีดพิษนาคเติมฤทธิ์ ให้แก่ ศรนาคบาศ ตามกำหนดแล้วต้องทำพิธีถึงเจ็ดวัน แต่โดนฝ่ายพระรามส่งชามภูวราชพญาวานร แปลงกายเป็นหมีไปโค่นทำลายพิธีเสียก่อน
แต่ถึงอย่างนั้น ศรนาคบาศ ก็มีอานุภาพเป็นอย่างมากสามารถรัดพระลักษณ์และพลวานรได้ทั้งกองทัพ

พระลักษณ์
อินทรชิต เดิมที ชื่อ รณพักตร์ เป็นลูก ทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เรียนวิชาศิลปศาสตร์และมนต์ชื่อมหากาลอัคคีในพระฤาษีโคบุตร แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจต่อมาจึงทำความเพียรโดยการไปนั่งภาวนาอยู่ท่าเดียวเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสามจนครบเจ็ดปี
เทพเจ้าทั้งสามเห็นคนเอาใจก็ถูกพระทัยยิ่งนักจึงมอบของวิเศษให้ดังนี้
- พระอิศวร ประทานศรพรหมาสตร์ และมอบพรสามารถแปลงร่างเป็นพระอินทร์ได้
- พระพรหม ประทานศรนาคบาศ และมอบพรหากเศียรตกลงพื้น จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกต้องนำพานแว่นฟ้าของพระ พรหมเท่านั้นมารองรับเศียรจึงจะระงับเหตุได้
- พระนารายณ์ ประทานศรวิษณุปาณัม
เมื่อรณพักตร์ได้รับอาวุธ วิเศษแถมด้วยพรแล้วก็เกิดความหึกเหิมยกทัพบุกสวรรค์จนชนะพระอินทร์ ทศกัณฐ์ ผู้เป็นพ่อดีใจนักหนาที่ลูกตนสร้างชื่อเสียงให้จึงเรียกชื่อใหม่ว่า อินทรชิตหมายถึง ผู้พิชิตพระอินทร์

พระราม
อินทรชิตได้ทำสงครามกับกองทัพ พระรามพระลักษณ์ หลายหน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่ตัวอยู่ใหญ่ไม่ตายสักที จนมาถึงศึกนาคบาศ และศึกพรหมาสตร์ อินทรชิต ได้ทำพิธีกุมภนิยาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง แต่ก็ถูกฝ่าย พระรามพระลักษณ์ ทำลายพิธีเสียในที่สุด
อินทรชิตก็ถูกสอนศรพรหมาสตร์ของพระลักษณ์ตัดคอขาดโดยองคตเป็นผู้ถือพานแว่นฟ้ามารองรับเศียรเอาไว้ไม่ให้ตกลงบนพื้นแผ่นดิน เมื่อพิจารณาดูนาคบาศของอินทรชิตแล้ว เป็นชื่อของลูกศรซึ่งมีกำลังทำลายล้างสูงมากเมื่อยิงออกไปแล้วจะกลายเป็นงูใหญ่หรือนาครัดเป้าหมายไว้ไม่ให้หลุด
นาคบาศพรานบุญ

พรานบุญ
เมื่ออินทรชิตเสียชีวิตแล้ว นาคบาศ ก็ไม่รู้หายไปไหนแต่ได้มาอยู่ในความครอบครองของพญานาค ที่รู้เพราะพรานบุญไปขอยืมบ่วงนาคบาศนี้จากพญานาค พญานาคแม้จะรักจะหวงแค่ไหนก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะให้สัจจะไว้ในครั้งที่ใน พรานบุญ ได้เคยช่วยเหลือพญานาคราชไว้
และครั้งนั้นพญานาคราชได้ให้สัญญากับพรานบุญว่า เมื่อมีความเดือดร้อนอะไร มีอะไรให้ช่วย ขออะไรก็จะให้ เมื่อพรานบุญได้บ่วงนาคบาทนั้นแล้วจึงสามารถจับกินนารีที่ชื่อว่า มโนราห์ ได้เพื่อนำไปถวายพระสุธน และพรานบุญก็นำบ่วงนาคบาศนั้นไปคืนพญานาคเหมือนเดิม
จากตำนานที่เรารู้มาแสดงว่า ณ เวลานี้ นาคบาศ ยังอยู่กับเหล่าพญานาคและพญานาคให้ นาคบาศ นี่แหละเป็นเครื่องต่อกรกับเหล่าพญาครุฑทั้งหลาย
บ่วงนาคบาศ กับพระพุทธเจ้า

พญานาคเข้ามาช่วยขัดขวางเหล่าพญามาร
เมื่อครั้งที่ พระพุทธองค์ เผชิญกับพญามาร ในขณะที่กำลังจะตรัสรู้ ได้มี พญานาค เข้ามาช่วยขัดขวางเหล่าพญามารไว้ ขดเป็นวงเหมือนบ่วงนาคบาศ
ดังนั้น ในความเชื่อถือกันมาตั้งแต่โบราณว่ากันว่า บ่วงนาคบาศจะช่วยปกป้องคุ้มครองภัยทั้งหลาย (ภัยพิบัติ) และยังเป็นสิ่งที่จะช่วยปราบมารทั้งหลาย
และที่สำคัญก็คือ หากผู้ใดมีบ่วงนาคบาศนี้ไว้ จะมีกินมีใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น เหมือนดั่งที่งูหรือพญานาคสองตนกำลังกินหางซึ่งกันและกัน และเมื่อใดที่กินไปจนถึงหัว ก็คลายลำตัวออกมา แล้วก็กลืนกินกันไปอยู่อย่างนั้น
อันที่จริง นาคบาศ ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นรูปงูกินหาง แต่กล่าวว่าเป็นศรที่ยิง หรือขว้างไปแล้วก็กลายเป็นงูบ่วงรัดเป้าหมายไว้ แต่คนโบราณเมื่อเห็นปรากฏการณ์งูกินหาง ก็นึกถึงบ่วงพญานาค เพราะเป็นบ่วงงูที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งธรรมชาตินั้นเกิดจากอาการป่วยหรือความกดดันของก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
เชื่อกันว่าใครได้เห็นงูกินหางที่แห้งตายตามธรรมชาติถือว่าโชคดีมากให้นำมาเก็บไว้ที่บ้าน ร้านค้าจะมีแต่โชคลาภ เรียกคนเรียกลูกค้า เรียกเงินทองเข้ามา เรียกแม้แต่เนื้อคู่ให้ได้พบเจอ
งูกินหางที่แห้งตายตามธรรมชาติ แม้จะเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ก็เป็นของหายาก ต่อมาอาจารย์ทั้งหลายจึงได้สร้างเครื่องรางเป็นรูปงูกินหางขึ้นมา โดยทำเป็นรูปงูตัวเดียวกินหางตัวเองบ้าง งูสองตัวกินหางกันและกันบ้าง ทำเป็นรูปงูธรรมดาก็มีจนถึงทำเป็นรูป นาค ก็มี
แล้วเรียกชื่อตามตำนานว่า บ่วงนาคบาศ หรือ งูกินหาง เชื่อว่ามีอิทธิคุณเหมือนงูกินหางที่แห้งตายตามธรรมชาติ คือโชคลาภกินไม่หมดไม่สิ้น ร้อยรัดสิ่งที่เราปรารถนาให้อยู่กับเรา
วิธีบูชา บ่วงนาคบาศ ให้ถูกหลัก

ลักษณะของ นาคบาศ คือมีลักษณะเป็นนาคกินหางจนเป็นวงกลม มีหัวพญานาค 2 หัว และ 4 หัว นิยมนำมาทำเป็น วัตถุมงคลจำพวกจี้ กำไล หรือเป็นวัตถุบูชาบนหิ้ง
ให้ใช้น้ำสะอาด 1 แก้ว บูชาด้วยดอกไม้ขาว เอาไว้ต่ำกว่าพระ ทุกวันพระก็เปลี่ยนดอกไม้ เปลี่ยนน้ำใหม่ จุดธูป 9ดอก สวดขอพรทุกวัน หรือ ทุกวันพระ ค้าขายดีแน่นอน
เมื่อได้ครอบครองบ่วงนาคบาศ ไม่ต้องกังวลไปว่า การบูชาจะเป็นเรื่องยากแต่อย่างใด เพราะสามารถสวมใส่พกติดตัวได้ทุกวัน พร้อมกับอธิษฐานบทสวด ที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ


โดยมีบทสวด 3 บทที่สามารถบูชาบ่วงนาคบาศ
บทที่ 1 ใช้สำหรับเสี่ยงโชค
“โอม เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อุ มะอะ โชคลาภจงบังเกิด”
บทที่ 2 ใช้สำหรับค้าขาย มหาเสน่ห์
“เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง พุทโธภะคะวา พุทธังสิทธิชะนาจิตตัง ธัมมังสิทธิชะนาจิตตัง สังฆังสิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโสภะคะวา พุทธมัดใจ โมเรียกมา บ่วงทัพพะนาคา เยติ โอมประสิทธิเม”
บทที่ 3 ใช้สำหรับภูติกันภัย
“เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโส ภะคะวา พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด มะอุอะ”
สามารถสวดได้ในทุกวัน และไม่จำกัดครั้ง ตามความศรัทธา เพื่อเพิ่มโชคลาภ เรียกทรัพย์
สรุป
ความเชื่อถือ ความศรัทธาทั้งหมดทั้งมวล ผสมผสานรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เชื่อกันว่า หากผู้ใดมี บ่วงนาคบาศ นี้ไว้ในครอบครอง จะมีกินมีใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น เหมือนดั่งงูหรือพญานาคสองตนกำลังกินหางซึ่งกันและกัน
สาธุค่ะ